;

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับคู่ค้าและผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ
บริษัท บิทคับเวิลด์เทค จำกัด (“บริษัท”)

บริษัท บิทคับ เวิลด์เทค จำกัด (“บริษัท”) เคารพและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ จึงจัดให้มีการประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อให้ได้รับทราบถึงนโยบายของบริษัทเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (รวมเรียกว่า “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ดังนี้

1. ประเภทบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

1.1 คู่ค้า หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือให้หรือจะให้บริการกับบริษัท และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เป็นตัวแทนหรือผู้มีอำนาจจัดการแทนนิติบุคคลที่เป็นคู่ค้ากับบริษัท และบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการติดต่อหรือเพื่อเข้าทำธุรกรรมระหว่างบริษัทและบุคคลนั้นหรือบริษัทที่บุคคลนั้นเป็นลูกจ้าง พนักงาน ตัวแทน หรือผู้มีอำนาจกระทำการแทน

1.2 ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หมายถึง บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัท แต่เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัท พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานทางการซึ่งกำกับการประกอบธุรกิจหรือกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย และให้หมายความร่วมถึงบุคคลธรรมดาที่เป็นตัวแทนหรือผู้มีอำนาจจัดการแทนนิติบุคคลที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทด้วย

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้

(ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน รูปภาพหรือภาพถ่ายวีดีโอ หลักฐานการแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ
หมายเหตุ: โดยทั่วไป บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลอ่อนไหวที่ปรากฏอยู่บนสำเนาบัตรประชาชนของคุณ เช่น ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิต หากมีกรณีที่คุณต้องมอบสำเนาบัตรประชาชนให้บริษัท โปรดปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากคุณไม่ได้ปกปิดข้อมูลดังกล่าวบริษัทอาจดำเนินการปกปิดข้อมูลให้คุณเพื่อประโยชน์ด้านการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลของคุณ
(ข) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ เช่น ที่อยู่ ที่อยู่สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และช่องทางการติดต่ออื่น ๆ
(ค) ข้อมูลจากสื่อบันทึกภาพ เช่น รูปภาพหรือภาพเคลื่อนไหวจากการถ่ายหรือบันทึกภาพ หรือจากกล้องวงจรปิด
(ง) ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน เช่น ประวัติและรายละเอียดการทำธุรกรรม เลขบัญชีธนาคาร
(จ) ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน เช่น ตำแหน่งหน้าที่
(ฉ) ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความสามารถหรือความเหมาะสมในการให้บริการ เช่น การวัดผลหรือประเมินความสามารถต่าง ๆ ของคู่ค้า การตรวจสอบประวัติการให้บริการเพื่อพิจารณาความสามารถของคู่ค้าหรือผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ

3. แหล่งที่มาของข้อมูล

โดยทั่วไปบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากคุณโดยตรง เว้นแต่ในบางกรณีเพื่อประโยชน์ในการติดต่อและเข้าใช้บริการหรือทำธุรกรรม บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากบริษัทในเครือ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือจากแหล่งอื่นตามความจำเป็น

4. การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานหรือข้อยกเว้นทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งรวมถึงเพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ กฎระเบียบ และคำสั่งจากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บุคคลภายนอก ผู้มีส่วนได้เสีย ตลอดจนเพื่อประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์อันสำคัญต่อชีวิตและร่างกาย ทั้งนี้ บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

4.1 ผู้ให้บริการของบริษัท บริษัทอาจใช้บริษัทในเครือ บริษัทอื่นหรือผู้รับจ้างเพื่อการดำเนินการต่าง ๆ ในนามบริษัท เช่น การให้คำปรึกษาและดูแลงานด้านกฎหมายและสัญญา การทำบัญชี เป็นต้น

4.2 บริษัท ฟินน์ เอ็ดเทค จำกัด และบริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด (รวมเรียกว่า “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วม”) บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วม ซึ่งดำเนินการร่วมกันกับบริษัทในโครงการชื่อ 5 Game Changing (“โครงการฯ”) เพื่อพัฒนาหลักสูตรการศึกษาและนำเสนอองค์ความรู้อันเกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์ดิจิทัล เทคโนโลยีบล็อกเชน และองค์ความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้กับลูกค้า

4.3 องค์กร หน่วยงาน หรือบุคคลภายนอกอื่นๆบริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือองค์กรหรือบุคคลภายนอกอื่นที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือในกรณีที่มีความจำเป็นอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย คำสั่ง หรือข้อบังคับของหน่วยงานกำกับ หน่วยงานรัฐ หรือองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ตารางแสดงวัตถุประสงค์ในการใช้และการเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรภายนอก
วัตถุประสงค์ในการประมวลผล ประเภทของข้อมูล ฐานและข้อยกเว้นทางกฎหมาย การเปิดเผย/ส่งต่อไปยังองค์กรหรือบุคคลภายนอก
เพื่อการติดต่อประสานงาน (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน
(ข) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ
(จ) ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ไม่มี
เพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ ก่อนหรือเพื่อเข้าทำสัญญาหรือทำธุรกรรมระหว่างกัน (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน
(ข) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ
(จ) ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ผู้ให้บริการของบริษัทในการให้คำปรึกษาและดูแลงานด้านกฎหมายและสัญญา
เพื่อชำระค่าสินค้า บริการ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานภายในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายและการทำบัญชี (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน
(ข) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ
(ง) ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน
(จ) ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
- ผู้ให้บริการของบริษัทในการจัดทำบัญชี
- หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือกรมสรรพากร
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลร่วม
เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานภายในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมในการคัดเลือกผู้ให้บริการ (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน
(ข) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ
(ง) ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน
(จ) ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
(ฉ) ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความสามารถหรือความเหมาะสมในการให้บริการ
เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ไม่มี
เพื่อการกำกับและตรวจสอบ การสอบสวนร้องเรียนภายในองค์กร การป้องกันการทุจริตเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน
(ข) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ
(ง) ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน
(จ) ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
(ฉ) ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความสามารถหรือความเหมาะสมในการให้บริการ
เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ผู้ให้บริการของบริษัทในการกำกับดูแลและตรวจสอบภายในองค์กร
เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในอาคาร/สถานที่ (ค) ข้อมูลจากสื่อบันทึกภาพ(จากกล้องวงจรปิด) เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ไม่มี
เพื่อเก็บรักษาข้อมูลไว้บนศูนย์ข้อมูล (Cloud) เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษา การสำรองข้อมูล บริการเรียกข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บข้อมูล (ก) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน
(ข) ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ
(ค) ข้อมูลจากสื่อบันทึกภาพ
(ง) ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน
(จ) ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่การงาน
(ฉ) ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินความสามารถหรือความ
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ผู้ให้บริการคลาวด์
เหมาะสมในการให้บริการ

หมายเหตุ : ในกรณีที่คุณไม่ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือกฎหมาย บริษัทอาจจะจะไม่สามารถทำธุรกรรมกับคุณได้

5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

5.1 บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศในกรณีที่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือเป็นกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาซึ่งคุณเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

5.2 บริษัทมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบนเซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่นซึ่งอยู่ต่างประเทศ ในการนี้ บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมเพียงพอ

5.3 บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ถูกส่งหรือโอนไปต่างประเทศจะได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสมเพียงพอ

6. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคค]

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ข้างต้น เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การก่อตั้งหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และเพื่อผลประโยชน์โดยชอบธรรมของบริษัทหรือผู้มีส่วนได้เสียอื่นตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และบริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

7. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล

บริษัทให้ความสำคัญกับความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทจึงจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะไม่ถูกเข้าถึง แก้ไข เปลี่ยนแปลง ลบหรือทำลายโดยผู้ไม่มีสิทธิ และจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ

8. การใช้สิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูล

คุณสามารถใช้สิทธิใด ๆ อันพึงมีภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กฎหมาย ประกาศ และข้อบังคับใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง

8.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: คุณมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลที่ได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมายหรือยังมีสัญญาระหว่างคุณกับบริษัทที่ให้ประโยชน์แก่คุณอยู่

8.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน และขอให้เปิดเผยแหล่งที่มา: คุณมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยและมีสิทธิขอให้บริษัทแจ้งแหล่งที่มาของข้อมูล

8.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง: คุณมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ หรือไม่เป็นปัจจุบัน

8.4 สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้: คุณมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้หากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหมดความจำเป็นในการใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้โดยบริษัท

8.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: คุณมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณชั่วคราวได้ในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่คุณได้ขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

8.6 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบวิธีการอัตโนมัติ: คุณมีสิทธิในการขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถกระทำได้ ทั้งนี้ บริษัทยังไม่มีระบบรองรับในการใช้สิทธิตามข้อนี้

8.7 สิทธิในการขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูล: คุณมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี

ทั้งนี้ คุณอาจไม่สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้ หรือการใช้สิทธิในบางกรณีอาจมีค่าใช้จ่ายหากปรากฏว่าคำร้องของคุณ มีลักษณะดังนี้

(1) เป็นการขัดหรือแย้งหรือไม่เป็นไปตามสิทธิที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กฎหมาย หรือประกาศที่เกี่ยวข้อง
(2) เป็นการขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของกฎหมายหรือคำสั่งศาล
(3) เป็นการกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
(4) เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ฟุ่มเฟือย หรือไม่สมเหตุสมผล หรือ
(5) มีผลต่อการสืบสวนสอบสวน การใช้สิทธิทางกระบวนการยุติธรรม หรือการพิจารณาพิพากษาของศาล เป็นต้น

โดยคุณสามารถใช้สิทธิของคุณผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ โปรดทราบว่าในการใช้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวข้างต้นอาจส่งผลให้คุณเสียสิทธิบางประการในการได้รับผลประโยชน์หรือสิทธิพิเศษจากการใช้บริการและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัท

9. การแจ้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง

บริษัทให้ความสำคัญในการเคารพความเป็นส่วนตัวของคุณและการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน หากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาแจ้งมายังบริษัทในทันที

10. สิทธิในการตรวจสอบและยื่นข้อร้องเรียน

ในกรณีที่คุณพบว่าบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ถูกต้อง หรือเกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล คุณมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีหน้าที่พิจารณาเรื่องร้องเรียนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือเรียกร้อง ฟ้องร้องทางแพ่งและอาญา ตลอดจนขอตรวจสอบการดำเนินการอันเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลตามสิทธิที่คุณพึงมีตามกฎหมาย

11. รายละเอียดการติดต่อ

  • บริษัท บิทคับเวิลด์เทค จำกัด 2525 อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ตึก 2 ชั้นที่ 11 ยูนิต 2/1101-2/1107 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทร 02-032-9555
  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: อีเมล์ [email protected]

นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับลูกค้า ฉบับที่ 1.1 ปรับปรุงเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565